คู่มือออกแบบกิจกรรม
เชื่อมคนต่างวัย
คู่มือนี้พัฒนาขึ้นสำหรับผู้ใหญ่
ที่ทำงานกับเด็กและเยาวชน
โดยมีเป้าหมายในการแบ่งปันเคล็ดลับและเครื่องมือฝึกอบรม เพื่อช่วยให้ผู้ใหญ่สามารถนำพฤติกรรมสำคัญทั้งสี่ประการ ได้แก่ ชื่นชม (Appreciate) ฟัง (Listen) เรียนรู้จากความผิดพลาด (Mistakes) และสร้างพื้นที่ปลอดภัยและสบายใจ (Open) หรือ A.L.M.O ไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมต่างๆ ได้
เราหวังว่า การนำแนวทางเหล่านี้ไปใช้จะช่วยสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและเปิดรับสำหรับเยาวชน ส่งเสริมให้เกิดการสื่อสารและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ใหญ่และเยาวชนอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การสร้างคนที่ปราศจากอคติต่อวัย !
Section 1
เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่แตกต่างเพื่อให้เยาวชนประทับใจ
Section 2
แนวคิดและเคล็ดลับพฤติกรรมต้นแบบ
Section 3
แบบฝึกหัดกระบวน
การอบรมฝึกผู้ใหญ่
A.L.M.O
จากงานวิจัยที่ไซด์คิกทำร่วมกับทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่ามีเพียงประมาณ 20% ของกลุ่มทดลองที่มีทัศนคติเกี่ยวกับวัยอย่างเปิดกว้าง และอีก 37% ที่มีทัศนคติปานกลาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโอกาสที่เยาวชนจะได้พบกับผู้ใหญ่ที่มีความเข้าใจและพร้อมรับฟังยังมีอยู่อย่างจำกัด โดยเฉพาะเยาวชนที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆนอกจากการเรียน เราจึงมีโอกาสที่จะทำให้พวกเขารู้สึกว่าเราต่างจากผู้ใหญ่ในแบบที่พวกเขาคุ้นเคย
การเปลี่ยนแปลงมุมมองนี้อาจช่วยเปิดโลกใหม่ให้กับพวกเขา และทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีผู้ใหญ่ที่พร้อมสนับสนุนและเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาประสบอยู่
“พี่ผู้ชายที่มาเป็นวิทยากร ตอนแรกหนูกลัวเพราะดูดุ แต่พอคุยจริงๆ เขากลับนุ่มนิ่มมาก พอเราคุยแล้วผู้ใหญ่ไม่ได้แย่ นอกจากนั้น พอเราไปลงชุมชนก็พบว่าผู้ใหญ่ที่ดูหัวโบราณนั้นมีความร่วมสมัยมาก”
ความเห็นจากเยาวชนที่ร่วมกิจกรรมในโครงการ “ประสบการณ์” [แอมโม่]
เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่แตกต่างเพื่อให้เยาวชนประทับใจ
ส่วนที่ 1 (Section 1)
จากงานวิจัยที่ไซด์คิกทำร่วมกับทีมวิจัยจาก
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่า มีเพียงประมาณ
20% ของกลุ่มทดลองที่มีทัศนคติเกี่ยวกับวัยอย่าง
เปิดกว้างและอีก 37% ที่มีทัศนคติปานกลาง
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโอกาสที่เยาวชนจะได้พบกับผู้ใหญ่
ที่มีความเข้าใจและพร้อมรับฟังยังมีอยู่อย่างจำกัด
โดยเฉพาะเยาวชนที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ นอกจากการเรียน เราจึงมีโอกาสที่จะทำให้พวกเขารู้สึก
ว่าเราต่างจากผู้ใหญ่ในแบบที่พวกเขาคุ้นเคย
“ พี่ผู้ชายที่มาเป็นวิทยากร ตอนแรกหนูกลัวเพราะดูดุ แต่พอคุยจริงๆ เขากลับนุ่มนิ่มมาก พอเราคุยแล้วผู้ใหญ่ไม่ได้แย่ นอกจากนั้น พอเรา
ไปลงชุมชนก็พบว่าผู้ใหญ่ที่ดูหัวโบราณนั้นมีความร่วมสมัยมาก
ความเห็นจากเยาวชนที่ร่วมกิจกรรมในโครงการ “ประสบการณ์” [แอมโม่]
การเปลี่ยนแปลงมุมมองนี้อาจช่วยเปิดโลกใหม่ให้กับพวกเขา และทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีผู้ใหญ่ที่พร้อมสนับสนุนและเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาประสบอยู่
แนวคิดและเคล็ดลับพฤติกรรมต้นแบบ
ส่วนที่ 2 (Section 2)
เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบุคลิกของตัวเองหรือทำตัวให้กลายเป็นเด็ก
แต่ส่วนสำคัญคือการเปิดโอกาสให้ทุกคนคิดและแสดงความเห็นในแบบของตน โดยไม่บังคับให้ต้องคิดเหมือนเราหรือใช้วิธีเดียวกันในการบรรลุเป้าหมาย
“ ผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ รวมถึงวิทยากรและแขกรับเชิญ
มีความคิดทันสมัยและเข้าใจวัยรุ่นอย่างแท้จริง พวกเขาพร้อมรับฟังความคิดเห็นของเราเสมอ ทำให้เรารู้สึกกล้าที่จะพูดมากขึ้น แม้ก่อนหน้านี้จะไม่ค่อยกล้าพวกเขาเปิดกว้างและเพิ่มมิติให้กับความคิดของเรา
โดยไม่ตัดสินว่าอะไรถูกหรือผิด ”
ความเห็นจากเยาวชนที่ร่วมกิจกรรมในโครงการ “ประสบการณ์” [มุก]
4 พฤติกรรมหลักที่ผู้ใหญ่ต้องมี
เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเยาวชน และส่งเสริมให้เยาวชนเปิดใจรับฟังคนต่างวัย จากตัวอย่างงานวิจัยและการทดลองปฎิบัติตามโครงการ “ประสบการณ์” ได้แก่
Appreciate
การชื่นชมในความพยายามของผู้อื่น
จำไว้ว่าทุกคนมีความแตกต่าง: ทุกคนมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันจากโรงเรียนหรือครอบครัว และเราทุกคนก็ไม่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นควรเปิดใจรับฟัง เพราะทุกคำถามสามารถมีหลายคำตอบ
-
มองที่กระบวนการควบคู่ไปกับผลลัพธ์: ควรคิดเสมอว่าความยากลำบากที่แต่ละคนเผชิญนั้นไม่เท่ากัน การเข้าใจว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้จะช่วยให้เราชื่นชมความพยายามในทุกขั้นตอนได้ดียิ่งขึ้น ก่อนที่จะเสนอแนะหรือวิจารณ์ผลลัพธ์
-
คิดถึงข้อดีเสมอก่อนจะพูด: ก่อนที่จะพูดอะไร ควรพิจารณาข้อดีในตัวเด็กหรือสิ่งที่เขาทำ แล้วชื่นชมออกมาอย่างเป็นรูปธรรมและจริงใจ พร้อมหาคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจ
ตัวอย่างสถานการณ์จากโครงการ "ประสบการณ์"
เมื่อจัดกิจกรรมที่แต่ละกลุ่มไปถ่ายรูปในชุมชนและกลับมานำเสนอ แทนที่จะ
มุ่งเน้นไปที่การวิจารณ์ว่า สวยหรือไม่สวย ตรงโจทย์หรือไม่ ทีมวิทยากรและทีมพี่เลี้ยงได้สอบถามถึงกระบวนการในการสร้างสรรค์ภาพและเรื่องราวเหล่านั้นก่อน ให้คำชมพร้อมคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการคิดและออกแบบ (journey) ก่อนที่จะพูดถึงผลงานที่นำเสนอ
ในระหว่างที่แต่ละทีมออกไปถ่ายภาพในชุมชน วิทยากรจะติดตามไปด้วยเพื่อดูการทำงานและพูดคุยกับเยาวชน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจกระบวนการทำงานได้ดีขึ้น
ตัวอย่างความคิดเห็นจากเยาวชนที่ร่วมโครงการ “ประสบการณ์”
“ พี่ๆ พยายามรับฟังหลายๆความคิด ปฏิบัติกับทุกคนเท่าเทียมกัน
ไม่ได้ใส่ใจใครคนใดคนหนึ่งจนเกินไป เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดสิ่งที่
อยากนำเสนอ ไม่พูดตัดบท และให้พื้นที่ในการพูดให้จบชัดเจน ” [ชาช่า]
Listen
ตั้งใจฟังและเปิดพื้นที่ให้กับ
ทุกความคิดเห็น
-
ฟังอย่างตั้งใจ: เปิดโอกาสให้เด็กได้พูดและถาม โดยไม่เร่งรัดหรือตัดบท สบตาและคอยสังเกตสีหน้า อารมณ์ รวมถึงการใช้ภาษากายอื่นๆ เช่น การพยักหน้าและยิ้ม เพื่อแสดงความสนใจและบอกให้รู้ว่าความคิดของพวกเขานั้นมีค่า
-
จดอย่างละเอียด: บันทึกสิ่งที่เด็กพูด พร้อมตั้งคำถามเพิ่มเติมเพื่อทวนความเข้าใจ จะช่วยให้เราสามารถให้คำแนะนำที่ตรงจุดและต่อยอดความคิดให้กับพวกเขาได้มากยิ่งขึ้น
Mistakes
กล้าที่จะเล่าความผิดพลาดเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ให้คนอื่นเรียนรู้
-
โอบรับความผิดพลาด: ไม่กลัวที่จะเล่าถึงความผิดพลาดในอดีต เพราะทุกความล้มเหลวคือโอกาสเรียนรู้ที่มีค่า แต่อย่าลืมแบ่งปันวิธีการแก้ปัญหาและขั้นตอนที่ผ่านมาด้วย
-
หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบ: แชร์ประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่ โดยเน้นสร้างแรงบันดาลใจ อย่าเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าหรือเก่งกว่า เพราะเรามีหน้าที่สนับสนุนให้ทุกคนเติบโตและเรียนรู้ร่วมกัน
-
ให้กำลังใจ: เมื่อเกิดความผิดพลาด อย่ากดดัน แต่ให้กำลังใจและชวนคิด เพื่อสร้างนิสัยการเรียนรู้ร่วมกัน โดยเน้นที่สถานการณ์ พฤติกรรม หรือการกระทำที่สามารถปรับปรุงได้
ตัวอย่างสถานการณ์จากโครงการ "ประสบการณ์"
การให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลงานถ่ายภาพของน้องๆ วิทยากรต้องการชี้ให้เห็นว่าควรเข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้นหรือหามุมมองใหม่ๆ เพื่อเพิ่มมิติในการนำเสนอ แทนที่จะบอกว่า “ไม่ดี” หรือ “ไม่สวย” และให้ทำใหม่ วิทยากรได้ยกตัวอย่างประสบการณ์ของตนเมื่อเริ่มถ่ายภาพใหม่ๆ ว่ารู้สึกอายและไม่กล้าเข้าไปถ่ายใกล้ๆ เหมือนกัน แต่ได้รับคำแนะนำจากผู้อื่นว่าภาพจะสวยขึ้นถ้าเข้าใกล้มากขึ้น ซึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบกับน้องๆ ที่เริ่มต้นถ่ายภาพที่อาจยังไม่คุ้นเคย โดยให้กำลังใจให้พวกเขาพยายามถ่ายให้มากขึ้นและดูตัวอย่างเพื่อพัฒนาทักษะของตนเอง
OPEN
สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับ
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
หลักการสำคัญในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยมีดังนี้:
-
ความเคารพ: เคารพทุกความคิดเห็น แม้จะไม่เห็นด้วย
-
การฟังอย่างตั้งใจ: สบตา พยักหน้า หรือให้สัญญาณว่ากำลังฟังอยู่
-
ความเท่าเทียม: ทุกคนมีโอกาสพูดอย่างเท่าเทียม ไม่ขัดจังหวะกัน
-
ไม่มีการตัดสิน: ไม่ตัดสินหรือวิจารณ์ความคิดของผู้อื่น
การสร้างพื้นที่ปลอดภัย
-
ระดับการสื่อสาร: นั่งหรือยืนในระดับเดียวกับเด็ก เริ่มด้วยคำถามง่ายๆ เช่น
-
สะท้อนตัวเอง
-
สอบถามสารทุกข์สุขดิบ
-
อาหาร (กินอะไรอร่อยไหม)
-
การเรียน (เรียนอะไร เป็นยังไงบ้าง)
-
งานอดิเรก (ช่วงนี้อินกับอะไร)
-
กิจกรรม (กิจกรรมวันนี้เป็นยังไงบ้าง)
-
-
เวลาและโอกาสเท่าเทียม: กระตุ้นให้ทุกคนพูดโดยเรียกชื่อทีละคน หากใครไม่พร้อมให้ข้ามไปก่อน
-
ใช้ภาษาง่ายๆ: ทวนคำถาม ใช้คำถามปลายเปิด สื่อสารเชิงบวก หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบ
-
ฟังมากกว่าพูด: รับฟังความคิดเห็นและสังเกตการมีส่วนร่วม ระวังไม่ให้มีการพูดแทรกหรือตัดบท
ตัวอย่างความคิดเห็นจากเยาวชนที่ร่วมโครงการ “ประสบการณ์”
“ หนูรู้สึกว่าการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ทำให้กล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
เพราะทุกคนที่มาที่นี่เปิดรับและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างอิสระ
โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครไม่โอเค เพื่อนๆ ทุกคนสามารถปรับตัวและยอมรับความคิดเห็นของกันและกันได้อย่างดี ทำให้รู้สึกปลอดภัยและมีความมั่นใจในการแสดงออกมากขึ้น ” [แอม]
แบบฝึกหัดกระบวนการอบรมฝึกผู้ใหญ่ให้มีพฤติกรรม A.L.M.O. สำหรับนักปฎิบัติการ
ส่วนที่ 3 (Section 3)
ผู้เข้าร่วมจะสามารถ:
-
เข้าใจและนำพฤติกรรม A.L.M.O. ไปปรับใช้
-
สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ที่ปลอดภัยและเปิดรับสำหรับเยาวชน
-
กระตุ้นให้เกิดการสื่อสารและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ใหญ่กับเยาวชน
-
ลดช่องว่างระหว่างวัย ส่งเสริมสุขภาพจิต และสร้างพื้นที่ให้คนต่างวัยได้มีส่วนร่วมกันมากขึ้น
เตรียมสื่อการสอน:
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ได้แก่
กระดานไวท์บอร์ด, กระดาษโน้ต, แบบฝึกหัดสถานการณ์สมมติ, และเอกสารแจกสรุปพฤติกรรม A.L.M.O.
กำหนดตารางเวลา:
แบ่งการอบรมออกเป็นช่วง ๆ โดยแต่ละช่วงจะเน้นไปที่พฤติกรรมแต่ละตัวใน A.L.M.O.
การสนับสนุนหลังการอบรม:
วางแผนติดตามผลเพื่อประเมินว่าผู้เข้าร่วมได้นำสิ่งที่เรียนรู้ไปปฏิบัติในสถานการณ์จริงหรือไม่ จัดทำชุมชนออนไลน์หรือกลุ่มสนทนาเพื่อให้ครูและผู้ใหญ่สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และคำแนะนำได้อย่างต่อเนื่อง
กิจกรรม
รายละเอียด
วันอบรม: การดำเนินการ
แนะนำการอบรม (15 นาที)
-
เปิดการอบรมและกิจกรรมละลายพฤติกรรม:
ต้อนรับผู้เข้าร่วมและอธิบายวัตถุประสงค์ของการอบรมทำกิจกรรมสั้นๆ
เพื่อให้ผู้เข้าร่วมรู้จักกัน
-
สรุปภาพรวมของ A.L.M.O. (5 นาที):
อธิบายว่าพฤติกรรม A.L.M.O. คืออะไร และแต่ละตัวอักษรหมายถึงอะไร:
Appreciate (ชื่นชม), Listen (ฟัง), Mistakes (เรียนรู้จากความผิดพลาด)
, Open (สร้างพื้นที่ปลอดภัยและสบายใจ)
A คือ Appreciate (45 นาที)
-
อธิบายแนวคิดในหลักการจากรายละเอียดส่วนที่ 2 (Section 2) (10 นาที)
-
กิจกรรม 1: การชื่นชมที่สร้างสรรค์ (20 นาที):
-
ให้ผู้เข้าร่วมจับคู่กัน พูดถึงสิ่งที่แต่ละคนได้ทำสำเร็จ และประทับใจ จะเป็นเรื่องงานหรือการเรียนก็ได้ ให้อธิบายว่ามีองค์ประกอบอะไรที่ทำให้ทำสิ่งนั้นสำเร็จได้ แล้วฝึกการชื่นชมความพยายามในแต่ละขั้นตอนของคู่ตนเองหลังจากนั้นให้สลับ
-
-
บทบาทกันอภิปรายกลุ่ม (15 นาที):
-
ถามผู้เข้าร่วมว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อได้รับและให้คำชื่นชมพูดคุยถึงความสำคัญของการชื่นชมในฐานะเครื่องมือเสริมสร้างความมั่นใจให้เยาวชน
-
กิจกรรม
รายละเอียด
L คือ Listen (45 นาที)
-
อธิบายแนวคิดในหลักการจากรายละเอียดส่วนที่ 2 (Section 2) (10 นาที)
-
กิจกรรม 2: ฝึกการฟังเพื่อทำความเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อตอบโต้ (20 นาที):
-
ให้ผู้เข้าร่วมจับคู่กัน โดยคนหนึ่งพูดถึงปัญหาหรือความกังวล อีกคนฟัง จดบันทึก และทบทวนสิ่งที่ได้ยินโดยไม่แสดงความเห็น
-
สลับบทบาทกันเพื่อฝึกฝนทั้งการพูดและการฟัง
-
-
อภิปรายกลุ่ม (15 นาที):
-
พูดคุยว่าการฟังอย่างตั้งใจมีผลอย่างไร และการฟังแบบนี้ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อย่างไร
-
M คือ Mistakes (45 นาที)
-
อธิบายแนวคิดในหลักการจากรายละเอียดส่วนที่ 2 (Section 2) (10 นาที)
-
กิจกรรม 3: แบ่งปันความผิดพลาด (20 นาที):
-
ให้ผู้เข้าร่วมเขียนเกี่ยวกับความผิดพลาดที่พวกเขาเคยทำ และสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้จากมัน จากนั้นแบ่งปันเรื่องราวในกลุ่มย่อย การพูดถึงความผิดพลาดไม่ได้ทำให้เราดูด้อยลง แต่ทำให้เราเท่าเทียมกับเยาวชนและสามารถเรียนรู้ไปด้วยกันได้
-
-
อภิปรายกลุ่ม (15 นาที):
-
พูดคุยว่าการแบ่งปันความผิดพลาดทำไมทำให้เยาวชนรู้สึกดีกับผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น อยากฟังคำแนะนำมากขึ้น
-
กิจกรรม
รายละเอียด
O คือ Open (45 นาที)
-
อธิบายแนวคิดในหลักการจากรายละเอียดส่วนที่ 2 (Section 2) (10 นาที)
-
กิจกรรม 4: เริ่มด้วยคำถามง่ายๆ เช่น “ในสถานการณ์ที่รู้สึกสบายใจหรือไม่สบายใจ ทำให้คุณกล้าหรือไม่กล้าพูดหรือแสดงออกอย่างไร?” (10 นาที):
-
ให้ผู้เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์สั้นๆ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันว่า "พื้นที่ปลอดภัย" คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร
-
-
กิจกรรม 5: แบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ โดยให้แต่ละกลุ่มมีผู้นำการสนทนา (Facilitator) เพื่อฝึกสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างและปลอดภัย (15 นาที):
-
มีขั้นตอนดังนี้:
-
ผู้นำสนทนาเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามปลายเปิดที่ทุกคนสามารถตอบได้
-
สมาชิกในกลุ่มสามารถเลือกวิธีการแสดงความคิดเห็นตามความถนัด เช่น การพูด การเขียน การวาด หรือการเล่าผ่านสิ่งของที่ตนชื่นชอบ
-
ผู้นำสนทนาชวนทุกคนสะท้อนกระบวนการที่ทุกคนสามารถแสดงออกได้ อย่างสบายใจ โดยพูดคุยถึงประโยชน์และวิธีการนำไปปรับใช้กับงานของตน
-
-
สรุปประเด็นสำคัญ
-
กิจกรรม 6: สรุปประเด็นสำคัญ:
-
ทบทวนหลักการสำคัญในการสร้างพื้นที่ปลอดภัย (ความเคารพ การฟัง ความเท่าเทียม ฯลฯ)
-
เน้นย้ำความสำคัญของการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความมั่นใจ
-